วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

เลือกทานวิตามินให้สมวัย



เพราะช่วงวัยที่แตกต่าง ร่างกายของผู้หญิงจึงต้องการสารอาหารที่แต กต่าง สารอาหารส่วนใหญ่ที่ร่างกายได้รับในแต่ละว ันมาจากอาหารที่เลือกรับประทาน ซึ่งจะเพียงพอหรืออาจเป็นสิ่งยากที่จะวัด เพราะขึ้นอยู่กับทางเลือกและความชอบส่วนตั ว สาวๆ ส่วนใหญ่จึงเลือกทานวิตามินเสริม โดยยึดหลัก "เกินดีกว่าขาด" ทั้งๆ ที่จริงวิตามินบางตัวก็ไม่จำเป็น

วันนี้เราจึงมีข้อพิจารณาก่อนเลือกวิตามิน ที่เหมาะสมให้กับร่างกายมาบอกค่ะ โดยกูรูเริ่มต้นอธิบายว่า การรับทราบถึงความจำเป็นบวกกับกิจกรรมและไ ลฟ์สไตล์ในแต่ละช่วงวัยถือเป็นข้อพิจารณาท ี่ดีต่อการเลือกทานวิตามินเพื่อให้ได้ประโ ยชน์สูงสุดค่ะ

สาวใสวัย 20
เภสัชกรหญิง ภัชราภรณ์ ปิ่นสอาด จากร้านเพื่อสุขภาพและความงามวัตสัน กล่าวแนะนำทางเลือกด้านวิตามินเสริมสำหรับ สาววัย 20 ที่ยังอยู่ในวัยเรียนและวัยเริ่มต้นทำงาน ที่ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อรับมือก ับงานและกิจกรรมต่างๆ ดังนี้

วิตามินซี 0 มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เพราะไม่ใช่แค่เพียงป้องกันการเกิดหวัด แต่ยังช่วยขจัดอนุมูลอิสระที่อาจก่อให้เกิ ดโรคหลายชนิด นอกจากนั้น วิตามินซียังมีส่วนสำคัญในการช่วยดูดซึมธา ตุเหล็ก และการทำงานของระบบประสาท และยังช่วยในการสร้างคอลลาเจน

เกรพซีด (Grape Seed) 0 เต็มไปด้วยวิตามินสำคัญๆ ทั้งวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยในการมองเห็น และมีบทบาทต่อการสร้างเซลล์ใหม่ วิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิต้านทาน และบำรุงผิวพรรณ และวิตามินอี ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินเอและซี และปกป้องผิวจากรอยแผลและผิวอักเสบต่างๆ นอกจากนั้น สารสกัดจากเมล็ดองุ่นยังเป็นแหล่งของสารต้ านอนุมูลอิสระ

แคลเซียม 0 เมื่ออายุ 25 แคลเซียมในร่างกายจะเริ่มเสื่อมลง การเสริมแคลเซียมจึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจมอ งข้าม แคลเซียมยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ลิ่มเล ือดจับตัวได้ดีขึ้น พร้อมกับช่วยการทำงานของกล้ามเนื้อและการเ ต้นหัวใจ และถ้าจะให้ดีควรทานแคลเซียมควบคู่กับวิตา มินเค ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีข ึ้น

สาววัยเลขสาม
วัย 33 ทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตข้างหน้า การโหมงานหนักทำให้เธอรู้สึกได้ถึงความอ่อ นล้าของสมองและร่างกาย เภสัชกรหญิงจึงแนะให้มองหาวิตามินมาช่วยเส ริมความฟิตของระบบประสาท

วิตามินบีรวม 0 เสริมความพร้อมของระบบประสาทและสมองสำหรับ คนทำงานหนักด้วยวิตามินบีรวม ทั้ง บี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี7 บี9 และ บี12 เพื่อช่วยเสริมการทำงานของระบบสมองและประส าทส่วนกลาง การทำงานของหัวใจ สร้างเม็ดเลือดแดงและระบบภูมิคุ้มกัน

สารสกัดใบแปะก๊วย 0 เพิ่มประสิทธิภาพของสมองได้ด้วยสารสกัดจาก ใบแปะก๊วย ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดใน สมอง ป้องกันการเสื่อมของเซลล์สมองจากการถูกทำล ายด้วยอนุมูลอิสระ อีกทั้งปกป้องเซลล์ประสาทจากการขาดออกซิเจ น และยังมีส่วนทำให้ผนังหลอดเลือดแดงยืดหยุ่ นและแข็งแรง

สี่สิบยังสวยพริ้ง
เภสัชกรแห่งวัตสันแนะนำตัวช่วยเพื่อชะลอผิ วจากการถูกทำลาย
อีฟเวนนิง พริมโรส ออย (Evening Primrose Oil) 0 เป็นกรดไขมันจำเป็นซึ่งเป็น
องค์ประกอบหลักของเซลล์ผิวหนัง ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำของเซลล์ผิว ปรับสภาพ
ผิวที่แห้งกร้านให้ชุ่มชื่น ลดริ้วรอย นอกจากนั้น ยังช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
และอาการผิดปกติของช่วงหมดประจำเดือนได้ดี อีกด้วย

สง่าแบบสาวเลขห้า
เมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆ เภสัชกรหญิงจึงเตือนให้หันมาใส่ใจด้านสุขภ าพกันอย่างเต็มที่ ด้วยการรับประทาน

ฟิช ออยฟิช ออย (Fish Oil) 0 เป็นสารประกอบของกรดไขมันกลุ่มของโอเมก้า 3 ที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ซึ่งมี 2 ชนิด ได้แก่ EPA ที่ช่วยลดไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด และ DHA ซึ่งช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง ความจำ ตลอดจนระบบสายตา ฟิชออยสามารถช่วยลดความดันโลหิต และทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และยังบรรเทาอาการปวดข้อรูมาตอยด์และข้อเส ื่อมอีกด้วย

ได้เห็นตัวอย่างของสาวต่างวัยต่างความต้อง การแบบนี้แล้ว ก็ต้องไม่ลืมที่จะมองหาวิตามินเสริมที่เหม าะกับความต้องการของร่างกายในแต่ละช่วงอาย ุ และที่สำคัญ เภสัชกรหญิงจากร้านวัตสันฝากว่า สาวๆ ไม่ว่าวัยใดก็ตามก็ต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วยจึงจะดีที่สุด

ที่มา www.thaipost.net

ยาที่ไม่ควรกินคู่กัน


สาระน่ารู้เกี่ยวกับทานยาสำหรับผู้ที่มักจะทานยาหลายๆตัวพร้อมๆกัน เพราะยาบางอย่างอาจมีส่วนสนับสนุนซึ่งกันและกัน แต่ถ้าเลือกทานไม่เหมาะสมแล้วล่ะก็อาจเป็นโทษอย่างร้ายแรงเลยนะ หยิบมาเฉพาะเนื้อหาสำคัญๆ ซึ่งจะแบ่งเป็นยากลุ่มที่กินแล้วส่งเสริมกันให้เกิดผลดีแก่ร่างกาย และกลุ่มยาที่กินแล้วเกิดผลเสียกับร่างกาย ยกมาอย่างละ 5 ข้อ เฉพาะตัวสำคัญเลยนะ

กินร่วมกันแล้วเกิดผลดี

1) วิตามินซีกับคอลลาเจน จะช่วยกันสร้างเนื้อเยื่อใหม่ให้ใสปิ๊งปั๊ งไม่เหี่ยวหย่อนย้อย

2) ธาตุเหล็กกับวิตามินซี กินธาตุเหล็กให้ดีดูดซึมเข้าไปใช้ได้ ไม่ใช่กินเข้าไปอย่างไรถ่ายออกมาหน้าตาเหมือนเดิมนั้น ต้องกินคู่กันอย่างเช่นถ้าจะกินเลือดหมูให ้ได้ธาตุเหล็กก็ควรกินกับผักที่มี วิตามินซีสูงเช่นใบตำลึงก็จะดีไม่น้อยครับ

3) แคลเซียมกับแมกนีเซียม แคลเซียมจะดูดซึมได้ดีต้องมี “ตัวช่วย” พามันเข้าไปได้แก่แมกนีเซียม, วิตามินดีและวิตามินเคด้วยซึ่งอยู่ในแสงแดดและผักเข ียวจัดตามลำดับ

4) วิตามินเอ,ซีและอี พยายามกินไปด้วยกันเป็นดี หรือสูตรที่ดีคือกินซีเพียงตัวเดียวส่วนเอ กับอีนั้นกินเอาจากผักคะน้าและถั่วลิสงสักวันละกำมือ

5) น้ำมันปลา(ไม่ใช่น้ำมันตับปลา) ขอให้เลือกชนิดที่มี ดีเอชเอคู่กับกับอีพีเอ ยิ่งมากหน่อยยิ่งดีอย่างน้อยกินให้ได้ค่า ดีเอชเอ+อีพีเอ = 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน โดยมีเคล็ดไว้ว่าถ้าอยากบำรุงสมองต้องเลือ กชนิดที่มีดีเอชเอเด่น แต่ถ้าจะให้บำรุงส่วนอื่นเป็นหลักเช่นข้ออ ักเสบให้เลือกชนิดที่มีอีพีเอสูงด้วยครับ



กินร่วมกันแล้วเกิดผลร้าย

แฝดตัวนี้ถือเป็นระดับ “ตัวแม่” ที่น่ากลัวกว่าเยอะมากครับ เพราะอาจทำให้เกิดเลือดออกในสมองจนเป็นอัมพาตหรือหัวใจวายแน่นิ่งไปได้ จึงอยากชวนให้ท่านที่รักมาสนใจในยาที่ไม่ค วรกินร่วมกันสักนิดดังนี้ครับ

1) น้ำมันปลากับแอสไพริน คู่ร้ายอันดับแรกโดยน้ำมันปลานี้มีฤทธิ์ช่ วยให้เลือดใสไม่หนืดเหนียว ส่วนแอสไพรินก็มีฤทธิ์เดียวกันคือช่วยให้ไม่เก ิดลิ่มเลือดจับแข็งเป็นก้อน ตัน เมื่อกินคู่กันเลยกลายเป็นคู่สังหารพาลให้เลือดไหลพรวดพราดไม่หยุด แม้การกรอฟันเพียงนิดก็อาจทำให้เลือดออกได ้ราวกับผ่าตัดใหญ่แล้วครับ

2) วิตามินอีและอีฟนิ่งพริมโรส มีคนไข้ที่อยากผิว สวยมาหาพร้อมบอกว่ามีคนแนะให้กินวิตามินอี แต่บ้างก็ให้เลือกเป็นอีฟนิ่งพริม โรสแทนจะเลือกอย่างไรดี จึงได้บอกไปให้เลือกอย่างหนึ่งก็พอเพราะล้ วนแต่มีวิตามินอีทั้งนั้นซึ่งถ้า ได้มากไปอาจทำให้เกิดหัวใจพิบัติแทน

3) แคลเซียมเสริมกับแคลเซียมสด ถ้าท่านกินงาดำได้วันละ 4 ช้อนโต๊ะหรือเต้าหู้ขาวแข็งวันละ 3 ขีดก็จะได้ แคลเซียมราว 1,000 มิลลิกรัมอยู่แล้ว ซึ่งถ้าไปหาแคลเซียมเม็ดมากินเติมอีกจะทำใ ห้แคลเซียมเกินและไปจับกับหลอด เลือดทำให้ตีบแข็งได้

4) กาแฟกับแคลเซียม ขอให้เลี่ยงกินแคลเซียมร่วมกับกาแฟเพราะกา แฟจะไปยับยั้งการดูดซึมแคลเซียมนอกจากนั้นยังไปดึงแคลเซียมออกจากกระดูกอี กด้วย

5) ธาตุเหล็กกับเลือดจางธาลัสซีเมีย เป็นไม้เบื่อไม้เมากันทีเดียว ขอให้ลืมความเชื่อที่ว่าถ้าเลือดจางต้องกินธาตุเหล็ก ไม่เสมอไปครับ หากท่านเป็นเลือดจางชนิดธาลัสซีเมียแล้วไป กินธาตุเหล็กเสริมจะเท่ากับเติมยาพิษให้กับหัวใจและตับตัวเองครับ

อ้างอิง: จากเว็บสมาคมร้านขายยา